![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEickbtxY_iNLdmQUcoS1XtFPN80HbN2R-ZFZXJ7qUvf5BqUnW27BG6WievhAhvMKaliqxCCdoJThImw87tJyitBdch3jP_RpSlNcXVXvJE9S3S2yynkQpmrJErOOzAoRhD2KlhqxwRfFnw/s320/iraq-drought-ruins3.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgPpbQod8_NVoQM0T0NYImNY5bhE7VHYUy7xHBXOWWHRtdEkstBnH-9mRXUcb2Lr9JQRqRFRNaGXl7i_jZcrlJAcKxTdE1yw-qw8yvh41Ge3-bZCoth1V9kuPdo_27KNelY9Pw4fSAiEZA/s320/iraq-drought-ruins1.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh6vC2Dh8SiAY_-LHrUjqaB2zLt-lICBxpSTC2BYEWcLMkdOhCXI9pvpmjqj9B4-N8mI3eHp90TtuoOkPdpkKh5mBgNRlxaV9wTDLYjYMzdEaRqxiPhe_VXR87kE86j6H_1PBLaeSZRYZU/s320/iraq-drought-ruins5.jpg)
น้ำลดวังผุด ! ตะลึงอาณาจักรโบราณ 3,400 ปี โผล่นาทีอิรักแล้งจัด
น้ำลดวังผุด – ซีเอ็นเอ็น รายงานการค้นพบซากพระราชวัง อายุ 3,400 ปี ปรากฏขึ้นกลางอ่างเก็บน้ำของเขื่อนโมซุล ริมฝั่งแม่น้ำไทกริส หลังเกิดภาวะแล้ง จนระดับน้ำลดลง ที่ภูมิภาคเคอร์ดิสถาน ภาคเหนือของประเทศอิรัก
พระราชวังดังกล่าว มีร่องรอยตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำราว 20 เมตร ตั้งอยู่บนทางลาดที่สูงกว่า จากนั้นมีกำแพงก่อโคลนกั้นลดหลั่นเป็นชั้นตามมา เพื่อเสริมให้อาคารมั่นคงขึ้น ปรากฏเป็นรูปแบบทางสถาปัตยกรรม
การค้นพบดังกล่าว นำทีมโดยนักโบราณคดีชาวเยอรมันและชาวเคิร์ด ทีมงานหวังว่าการขุดค้นต่อไปนี้จะช่วยให้ได้ข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับอาณาจักรมิตตานี (Mittani Empire) อาณาจักรที่นักโบราณคดีมีข้อมูลน้อยมากที่สุดในบรรดาอาณาจักรโบราณตะวันออกใกล้ หรือประเทศบริเวณเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ระหว่างเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงอิหร่าน
“การค้นพบครั้งนี้เป็นการค้นพบทางโบราณคดีที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคนี้ช่วงไม่กี่ทศวรรษมานี้” นายฮาซัน อาเหม็ด คาซิม กล่าว
ไอวานา พูลจิซ นักโบราณคดีจากสถาบันศึกษาภูมิภาคตะวันออกใกล้ มหาวิทยาลัยทูบิงเงิน กล่าวว่า พระราชวังแห่งนี้มีชื่อเป็นที่รู้จักว่า เคมูน ออกแบบและสร้างกำแพงด้วยอิฐโคลน หนากว่า 2 เมตร กำแพงบางส่วนสูงเกิน 2 เมตร และมีห้องมากมายที่ก่อกำแพง
ทีมงานยังพบภาพระบายสีที่กำแพง เป็นสีแดงและสีฟ้า อันเป็นสีของพระราชวังในยุคนั้น แต่ไม่ค่อยพบว่ารักษาไว้ได้มากนัก
“การค้นพบภาพระบายสีที่กำแพงในวังเคมูนเป็นเรื่องเร้าใจทางโบราณคดีอย่างยิ่ง เคมูนเป็นเพียงโบราณสถานแห่งที่สองที่พบในภูมิภาคนี้และปรากฏภาพระบายสีในยุคมิตตานี” นักโบราณคดีหญิงกล่าว พร้อมแสดงภาพโบราณวัตถุที่ค้นพบ มีทั้งแผ่นจารึกดินในอักษรลิ่ม ซึ่งทีมงานถ่ายภาพข้อความเพื่อส่งไปแปลที่เยอรมนีแล้ว
พูลจิซกล่าวด้วยว่า ทีมงานหวังอย่างยิ่งที่จะได้ข้อมูลภายในโครงสร้างภายในอาณาจักรมิตตานี เช่น องค์การเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างเมืองหลวงของมิตตานีกับศูนย์การบริหารงานในภูมิภาคเพื่อนบ้าน เป็นต้น
โบราณสถานแห่งนี้เริ่มเป็นที่สังเกตครั้งแรกในปี 2553 เมื่อระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลดต่ำลง แต่ครั้งนี้ในปี 2562 เป็นครั้งแรกที่นักโบราณคดีขุดค้นลงไปยังพื้นที่ได้ เพียงแต่น่าเสียดายว่า ซากพระราชวังปรากฏในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อขุดได้ไม่นานก็จมลงไปอีก และไม่แน่ชัดว่าจะโผล่ขึ้นมาให้เห็นอีกเมื่อใด
ที่มา https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_2667696
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น