![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhMbbi13m3xYxXpQM-Bpi_wraKXr30JljB6P5s7IhONZstv43Leu35smVKBd_9XNAwLaF98D1zg0LXaA1J3JCcjd4BUmJKBJxdvVdrUA8_z6N_ZYmjKySDZMoDgLGWpCm825YgbBodFmns/s320/562000010491501.JPEG.jpg)
เอเอฟพี - ไข่มุกเม็ดหนึ่งอายุ 8,000 ปีที่พวกนักโบราณคดีเชื่อว่าน่าจะเก่าแก่ที่สุดในโลก จะถูกจัดแสดงให้กรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมระบุมันเป็นข้อพิสูจน์ว่าการซื้อขายไขมุกนั้นมีมาตั้งแต่สมัยยุคหินนีโอะลีธอิค
ไข่มุกตามธรรมชาติเม็ดนี้ถูกพบอยู่บนพื้นของห้องๆหนึ่ง ระหว่างการสำรวจทางโบราณคดีบนเกาะมาราวาห์ นอกชายฝั่งกรุงอาบูดาบี ซึ่งปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมในยุคต้นของประเทศ
กรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของรัฐอาบูดาบีระบุ "จากการตรวจสอบคาร์บอนในชั้นของไข่มุกพบว่ามีอายุย้อนกลับไปในช่วง 5,800 ปี - 5,600 ปีก่อนก่อนคริสตกาลเรียกว่าช่วงหลังยุคหิน"
"การค้นพบไข่มุกเก่าแก่ที่สุดในโลกในอาบูดาบี ทำให้เป็นที่ประจักษ์ได้ว่าประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้นหยั่งรากลึกกลับไปถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์" กรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของรัฐอาบูดาบีกล่าว
"ไข่มุกแห่งอาบูดาบี" จะถูกนำออกแสดงเป็นครั้งแรกในนิทรรศการ "10,000 years of Luxury" ซึ่งจะมีพิธีเปิดในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาบู ดาบี
พวกผู้เชี่ยวชาญของยูเออีเชื่อว่ามีการค้าขายไขมุกกับชาวเมโสโปเตเมีย คนอิรักยุคโบราณ แลกกับเครื่องปั้นดินเผาและสินค้าอื้นๆ นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าพวกเขาจะชอบสวมใส่เครื่องประดับเพชรพลอยด้วย "กัสปาโร บัลบี พ่อค้าเพชรพลอยชาวเวนิซ ผู้ซึ่งเดินทางไปทั่วภูมิภาค เคยพาดพิงเกาะต่างๆนอกชายฝั่งอาบูดาบีว่าเป็นแหล่งไข่มุกในช่วงยุคคริสต์ศตวรรษที่ 16" กรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของรัฐอาบูดาบีกล่าว
อุตสาหกรรมไข่มุกครั้งหนึ่งเคยเป็นฐานสนับสนุนเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อนการค้าขายจะล่มสลายในช่วงทศวรรษที่ 1930 จากการถือกำเนิดของไข่มุกเลี้ยงญี่ปุ่น และสถานการณ์ความขัดแย้งต่างๆที่สั่นคลอนเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ประเทศต่างๆในอ่าวเปอร์เซียบ่ายหน้าสู่อุตสากรรมน้ำมันแทน ซึ่งกลายเป็นกลไกสำคัญในเศรษฐกิจของพวกเขาจวบจนถึงปัจจุบัน
ที่มา https://mgronline.com/around/detail/9620000101353
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น